วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

การเพิ่มผลผลิตในองค์กร


การเพิ่มผลผลิตในองค์กร
🍭 การเพิ่มผลผลิตในองค์กร
ในยุคที่มีการแข่งขันกันสูงทางการค้าและธุรกิจองค์การต่างๆ ทั้งที่
ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมรวมถึงองค์การของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ
หลักของการเพิ่มผลผลิตในองค์การทุกแห่งจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิด 4 ประการ คือ
    🍥การพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ
    🍥การลดต้นทุน
    🍥ความรวดเร็วในการส่งมอบสินค้าและการบริการ
    🍥ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
🌲ประสิทธิภาพ (Efficiency) หมายถึง ความสามารถที่จะนำทรัพยากรที่มีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างดีที่สุดในความพยายามที่จะบรรลุเป้าหมาย 
ความหมายที่ 2  หมายถึง ความสามารถที่ทำให้เกิดผลในการงานหรือลงมือทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม (Doing Things Right)ประสิทธิภาพเป็นการเปรียบเทียบส่วนที่เป็น Input หรือปัจจัยนำเข้ากับ Output ผลิตผลที่ได้ การวัดค้าประเมินประสิทธิภาพ คือ Input ต้องใกล้เคียงกับ Output มากที่สุดและมีความสูญเสีย
น้อยที่สุด ประสิทธิผล (Effectiveness) หมายถึง ความสามารถในการเลือกเป้าหมายที่เหมาะสมในการบรรลุเป้าหมายนั้นๆ 
ความหมายที่ 2 หมายถึง ผลสำเร็จหรือผลที่เกิดขึ้นหรือการเลือกลงมือทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม

🌲อัตราผลิตภาพ (Productivity)ผลิตภาพ คือ อัตราส่วนระหว่างผลิตผล (Outputs) ขององค์การในรูปของสินค้าและบริการต่อจำนวนปัจจัยการผลิต (Inputs) ที่ใช้ไปเราสามารถแบ่งประเภทของอัตรา
ผลิตภาพได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
   🌹อัตราผลิตภาพเฉพาะส่วน (Partial Productivity) คือ 
อัตราส่วนระหว่างผลิตผลต่อทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตแต่ละชนิด
เช่น   อัตราผลิตภาพวัตถุดิบ (Material Productivity)
อัตราผลิตภาพเรื่องเงินลงทุน (Capital Productivity)
อัตราผลิตภาพแรงงาน (Labor Productivity)
อัตราผลิตภาพค้าใช้จ่าย (Expense Productivity)
อัตราผลิตภาพพลังงาน (EnergyProductivity) เป็นต้น

  🌹อัตราผลิตภาพองค์ประกอบรวม (TotalFactorProductivity) 
คือ อัตราส่วนผลิตผลสุทธิ ต่อผลรวมของทรัพยากรด้านเงินทุน และแรงงาน 
🍭 วงจรผลิตผล  (Productivity Cycle)
การเพิ่มผลผลิตจะเกิดขึ้นอย่างเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง มีลักษณะเป็นวงจร (Cycle) ซึ่งประกอบด้วยกระบวนการของวงจรผลิตภาพหรือวงจรการเพิ่มผลผลิต เป็นขั้นตอนดังนี้
   🍙การวัดผลงาน (Measurement)
   🍙การประเมินผลงาน (Evaluation)
   🍙การวางแผน (Planning)
   🍙การปรับปรุงเพื่อเพิ่มผลผลิต (Productivity Improvement)
 🍭 ต้นทุนและความสูญเสีย
องค์การที่จะประสบความสำเร็จในการดำเนินงานผู้บริหารมักคำนึงถึงกำไร (Profits) เป็นเป้าหมายสูงสุดซึ้งการจะได้กำไรมากน้อยขึ้นอยู่กับราคาขายหรือมูลค่าสินค้าต้องสูงกว่าต้นทุนการผลิต จากสมการ
กำไร  =   ราคาขาย – ต้นทุน
  🍡ต้นทุน  (Cost) หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปสำหรับทรัพยากรทางการผลิตเพื่อให้เกิดผลิตผล
ต้นทุนการผลิตที่เป็นค่าใช้จ่ายแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
      🍠ค่าวัสดุ (Material Cost)
      🍠ค่าแรงงาน  (Labor  Cost)
     🍠ค่าโสหุ้ย  (Overhead  Cost)
ค่าโสหุ้ย จะประกอบด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ
–  ค่าวัสดุทางอ้อม เช่น ค่าวัสดุเครื่องใช้สำนักงาน ค่าทำความสะอาด ค่าบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
–  ค่าแรงงานทางอ้อม เช่น ค่ายามรักษาความปลอดภัย ค่าพนักงานทำความสะอาด พนักงานรับโทรศัพท์ เป็นต้น
–  ค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ
–  ค่าใช้สอยอื่นๆ
–  ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรและทรัพย์สินอื่น ๆ
–  ค่าใช้จ่ายสวัสดิการ เช่น โบนัส ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ
–  ค่าขนส่ง เป็นต้น
   🍡 ความสูญเสีย (Lost) หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้วไม่เกิดผลผลิต บางองค์การอาจใช้คำว่า ความสูญเปล่า (Waste)
ในความเป็นจริง  ความสูญเสียหรือความสูญเปล่าก็คือต้นทุนแต่เป็นต้นทุนที่ไม่ก่อผลประโยชน์
ปัญหาของการเพิ่มผลผลิต  ซึ้งทำให้ผลผลิตตกต่ำลงและอาจมีสาเหตุหลายประการซึ้งทำให้เกิดความสูญเสีย   ได้แก่
       🍗 ความสูญเสียในส่วนวัสดุ    เช่น
–  มากเกินไป สั่งซื้อมามาก ทำให้หมดเงินลงทุน และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ
–  สูญหาย การวางผิดที่ หยิบใช้โดยไม่ต้องบอก ฯลฯ
–  ไว้ผิดประเภท จัดซื้อไม่ถูกขนาดหรือ Spec เสียค่าใช้จ่ายมาก ฯลฯ
       🍗 ความสูญเสียในส่วนเครื่องจักร
–  เก่าชำรุด
–  สกปรก ขาดการดูแลรักษา
–  ประสิทธิภาพการผลิตต่ำ ฯลฯ
       🍗 ความสูญเสียในส่วนแรงงาน
–  ขาดระเบียบวินัย
–  ขาดการฝึกอบรม
–  มีทัศนคติที่ไม่ดีในการทำงาน ฯลฯ
      🍗 ความสูญเสียในส่วนกระบวนการผลิตหรือวิชาการทำงาน
–  ขาดเทคโนโลยี
–  ไม่มีการพัฒนาควบคุมคุณภาพ ฯลฯ
ความสูญเสีย 7 ชนิด บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ระบุถึงสาเหตุของความสูญเสีย 7ชนิด ไว้ ดังนี้
    🌵  ผลิตมากเกินไป
    🌵  ของชำรุดเสียหายหรือของเสีย
    🌵  ความล่าช้าหรือการรอคอย
    🌵  วัสดุคงคลัง สินค้าคงคลังมากเกินไป
    🌵  การขนส่งหรือการขนย้าย
    🌵  กระบวนการหรือการแปรรูป
    🌵  การเคลื่อนไหว
ความสูญเสียที่เกิดจากการผลิตมากเกินไป (Overproduction)
การผลิตมากเกินไป ทำให้มีการใช้วัตถุดิบและแรงงานเกินความจำเป็น เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตขั้นสุดท้าย และยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้า การบรรจุภัณฑ์และการขนส่ง
ความสูญเสียที่เกิดจากการผลิตของเสีย (Defect)
การผลิตของเสีย หมายถึง การสูญเสียคุณค่างาน เสียเวลา เสียวัตถุดิบ และยังเป็นการเพิ่มงานในการผลิตหรือการแก้ไขงานใหม่
ความสูญเสียที่เกิดจากการล่าช้าหรือการรอคอย (Delay or Waiting)
การรอคอย หรือความล่าช้า เกิดจากสาเหตุต่างๆ กัน เช่น ความล่าช้าของการส่งวัตถุดิบหรือชิ้นส่วน การใช้เวลานานในการติดตั้งเครื่องจักร กระบวนการขาดความสมดุลอันเนื่องจากการวางแผนการผลิตไม่ถูกต้อง
ความสูญเสียที่เกิดจากการมีวัสดุคงคลังที่ไม่จำเป็น (Inventory / workin-process)
การสะสมวัตถุดิบไว้จำนวนมากแล้วใช้ไม่ทัน ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการเก็บรักษาต้องเสียค่าใช้จ่าย ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ย เสียเวลาทำงาน และเสียทรัพยากรอื่นๆ
ความสูญเสียที่เกิดจากการขนส่งหรือขนย้าย (Transport)
การใช้แรงงานขนส่งของเป็นระยะไกลๆ ในการทำงาน การเดินทางของพนักงานส่งเอกสาร การขนส่งเป็นการสูญเสียที่ไม่ได้เพิ่มคุณค่าของสินค้า
ความสูญเสียเกิดจากการกระบวนการผลิต (Process)
ความสูญเสียอาจเกิดจากการไม่ได้ดูแลรักษาเครื่องจักร การทำงานด้วยมือที่มีการข้ามขั้นตอนการทำงาน เครื่องจักรมีประสิทธิภาพต่ำ
ความสูญเสียที่เกิดจากการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น (Motion)
การเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น การปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะสมถูกต้อง การทำงานกับเครื่องมือหรืดอุปกรณ์ที่มีขนาดน้ำหนักหรือสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมกับร่างกาย
🍭 เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในองค์การ
หลักการสำคัญของการบริหารเพื่อเพิ่มผลผลิตในองค์การ สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง คือ
   🍃 เวลาในการผลิต
   🍃 การวางแผนควบคุมการผลิต
   🍃 การใช้ระบบเพียงระบบเดียวในการผลิต
   🍃 ไม่มีวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมการผลิต
-เวลาในการผลิตผู้บริหารจะต้อง
–  ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้ค่า
–  ค้นหาสาเหตุของความล่าช้า
–  จัดลำดับความสำคัญของงานโดยกำหนดลำดับสูงสุด
–  ลดรอบเวลาในทุกหน้าที่งานทั้งด้านงบประมาณ
-การวางแผนควบคุมการผลิต
การใช้ระบบเพียงระบบเดียวในการผลิต
องค์ประกอบและปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตจะเหมือนกัน แม้ว่าขนาดขององค์การจะแตกต่างกัน
-ไม่มีวิธีที่สุดในการควบคุมการผลิต
การผสมผสานระหว่าง การวางแผน การดำเนินการควบคุมจะช่วยให้
การบริหารมีประสิทธิภาพ
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตและช่วยลดความสูญเสีย ได้แก่
  🌸 หลักการ ECRS
E  =  Eliminate  :  การขจัดขั้นตอนหรือวิธีการทำงานที่ไม่เป็นประโยชน์
C  =  Combine  :  การรวบรวมขั้นตอนต่างๆ
R  =  Rearrange  :  การจัดลำดับขั้นตอนการทำงานใหม่ตามลำดับก่อนหลัง
S  =  Simplify  :  การปรับปรุงให้ขั้นตอนหรือวิธีการทำงานต่างๆ
  🌸 การผลิตแบบ “จิ๋วแต่แจ๋ว”
หรือการผลิตแบบกะทัดรัด (Lean Manufacturing) หมายถึง ระบบการผลิตที่กะทัดรัดแต่มีประสิทธิภาพ โดยวิธี
–  ลดต้นทุนการผลิต
–  ลดเวลาในการผลิต
–  ลดสินค้าในสต๊อก
–  ขจัดงานที่ไม่สร้างมูลเพิ่มทิ้ง
แนวคิดพื้นฐาน คือ
  🍁 การฝึกอบรมพัฒนาเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว
  🍁 การดำเนินการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  🍁 การลดจำนวนสินค้าในสต๊อก
  🍁 การขจัดงานที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทิ้งไป
  🌸ระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี (JIT : Just in Time) หรือระบบการผลิตของโตโยต้าที่เรียกว่า ระบบคัมบัง (Kanban System)
หลักการของระบบ JIT ประกอบด้วย
  🍌 ระบบคัมบังการเบิกชิ้นส่วนในการผลิต
  🍌 การเปรียบเทียบทางการผลิต
  🍌 การลดเวลาปรับตั้งเครื่องจักรให้สิ้นลง
  🍌 การทำงานอย่างมีมาตรฐาน
  🍌 การวางผังเครื่องจักร
  🍌 ระบบอัตโนมัติ
  🍌 ระบบการควบคุมด้วยการมองเห็น
  🍌 กิจกรรมในการปรับปรุงงาน
 🌸 เทคนิคการบำรุงรักษาทวีผล (Total Productive Maintenance)
  🍊 กิจกรรมการเพิ่มประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร
  🍊 ความสูญเสียจากการหยุดเนื่องจากขัดข้อง (Breakdown)
  🍊 ความสูญเสียจากการปรับตั้งและปรับแต่งเครื่องจักร 
(Set-up and Adjust-ment)
  🍊 ความสูญเสียจากการหยุดเล็กน้อยและเดินเครื่องเปล่า 
(Idling and Minor Stoppages)
  🍊 ความสูญเสียเนื่องจากเครื่องจักรเสียความเร็วในการผลิต (Reduced Speed)
 🍊 ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตของเสีย (Defects)
 🍊 ความสูญเสียเนื่องจากการสูญเสียวัตถุดิบเมื่อเริ่มเดินเครื่อง
 🍊 การสร้างระบบการบำรุงรักษาเครื่องจักร
 🍊 การจัดทำแผนการบำรุงรักษาเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของเครื่องจักร
 🍊 การสร้างระบบป้องกันการรักษาโดยพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงานเพิ่มทักษะและปลูกฝังจิตสำนึกในการบำรุงรักษาเครื่องจักรให้มากขึ้น
  🌸 เทคนิควิศวกรรมอุตสาหกรรม (Industrial Engineer Technique)หรือ Ietechniqueประกอบด้วยกลุ่มของเทคนิคต่างๆ 
ที่สามารถยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น ขจัดของเสีย และ
การทำงานที่ไม่คงที่
  🌸 การเพิ่มผลผลิต โดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำสุด สามารถทำได้ด้วยแนวทางการปรับปรุงใน 8ประการ ได้แก่
   🌽 การจัดเก็บและการขนย้ายวัสดุสิ่งของอย่างมีประสิทธิภาพ
   🌽 การออกแบบและจัดบริเวณที่ทำงานใหม่
   🌽 การใช้เครื่องจักรอย่างประสิทธิภาพ และปลอดภัย
   🌽 การควบคุมสารเคมีอันตราย และสัตถุอันตราย
   🌽 การปรับปรุงแสงสว่าง
   🌽 การเพิ่มสวัสดิการ
   🌽 การปรับปรุงอาคารสถานที่
   🌽 การจัดรูปแบบของงานใหม่ เป็นต้น
ขอขอบคุณ https://cpico.wordpress.com/2009/11/29/
สืบค้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การจัดการงานอาชีพ

การจัดการงานอาชีพ ( Career Management )                การจัดการ   คือการทำให้กลุ่มบุคคลในองค์กรเข้ามาทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุว...