วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2561

การเพิ่มผลผลิตในองค์กร


การเพิ่มผลผลิตในองค์กร
🍭 การเพิ่มผลผลิตในองค์กร
ในยุคที่มีการแข่งขันกันสูงทางการค้าและธุรกิจองค์การต่างๆ ทั้งที่
ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมรวมถึงองค์การของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ
หลักของการเพิ่มผลผลิตในองค์การทุกแห่งจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิด 4 ประการ คือ
    🍥การพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ
    🍥การลดต้นทุน
    🍥ความรวดเร็วในการส่งมอบสินค้าและการบริการ
    🍥ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
🌲ประสิทธิภาพ (Efficiency) หมายถึง ความสามารถที่จะนำทรัพยากรที่มีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างดีที่สุดในความพยายามที่จะบรรลุเป้าหมาย 
ความหมายที่ 2  หมายถึง ความสามารถที่ทำให้เกิดผลในการงานหรือลงมือทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม (Doing Things Right)ประสิทธิภาพเป็นการเปรียบเทียบส่วนที่เป็น Input หรือปัจจัยนำเข้ากับ Output ผลิตผลที่ได้ การวัดค้าประเมินประสิทธิภาพ คือ Input ต้องใกล้เคียงกับ Output มากที่สุดและมีความสูญเสีย
น้อยที่สุด ประสิทธิผล (Effectiveness) หมายถึง ความสามารถในการเลือกเป้าหมายที่เหมาะสมในการบรรลุเป้าหมายนั้นๆ 
ความหมายที่ 2 หมายถึง ผลสำเร็จหรือผลที่เกิดขึ้นหรือการเลือกลงมือทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม

🌲อัตราผลิตภาพ (Productivity)ผลิตภาพ คือ อัตราส่วนระหว่างผลิตผล (Outputs) ขององค์การในรูปของสินค้าและบริการต่อจำนวนปัจจัยการผลิต (Inputs) ที่ใช้ไปเราสามารถแบ่งประเภทของอัตรา
ผลิตภาพได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
   🌹อัตราผลิตภาพเฉพาะส่วน (Partial Productivity) คือ 
อัตราส่วนระหว่างผลิตผลต่อทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตแต่ละชนิด
เช่น   อัตราผลิตภาพวัตถุดิบ (Material Productivity)
อัตราผลิตภาพเรื่องเงินลงทุน (Capital Productivity)
อัตราผลิตภาพแรงงาน (Labor Productivity)
อัตราผลิตภาพค้าใช้จ่าย (Expense Productivity)
อัตราผลิตภาพพลังงาน (EnergyProductivity) เป็นต้น

  🌹อัตราผลิตภาพองค์ประกอบรวม (TotalFactorProductivity) 
คือ อัตราส่วนผลิตผลสุทธิ ต่อผลรวมของทรัพยากรด้านเงินทุน และแรงงาน 
🍭 วงจรผลิตผล  (Productivity Cycle)
การเพิ่มผลผลิตจะเกิดขึ้นอย่างเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง มีลักษณะเป็นวงจร (Cycle) ซึ่งประกอบด้วยกระบวนการของวงจรผลิตภาพหรือวงจรการเพิ่มผลผลิต เป็นขั้นตอนดังนี้
   🍙การวัดผลงาน (Measurement)
   🍙การประเมินผลงาน (Evaluation)
   🍙การวางแผน (Planning)
   🍙การปรับปรุงเพื่อเพิ่มผลผลิต (Productivity Improvement)
 🍭 ต้นทุนและความสูญเสีย
องค์การที่จะประสบความสำเร็จในการดำเนินงานผู้บริหารมักคำนึงถึงกำไร (Profits) เป็นเป้าหมายสูงสุดซึ้งการจะได้กำไรมากน้อยขึ้นอยู่กับราคาขายหรือมูลค่าสินค้าต้องสูงกว่าต้นทุนการผลิต จากสมการ
กำไร  =   ราคาขาย – ต้นทุน
  🍡ต้นทุน  (Cost) หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปสำหรับทรัพยากรทางการผลิตเพื่อให้เกิดผลิตผล
ต้นทุนการผลิตที่เป็นค่าใช้จ่ายแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
      🍠ค่าวัสดุ (Material Cost)
      🍠ค่าแรงงาน  (Labor  Cost)
     🍠ค่าโสหุ้ย  (Overhead  Cost)
ค่าโสหุ้ย จะประกอบด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ
–  ค่าวัสดุทางอ้อม เช่น ค่าวัสดุเครื่องใช้สำนักงาน ค่าทำความสะอาด ค่าบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
–  ค่าแรงงานทางอ้อม เช่น ค่ายามรักษาความปลอดภัย ค่าพนักงานทำความสะอาด พนักงานรับโทรศัพท์ เป็นต้น
–  ค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ
–  ค่าใช้สอยอื่นๆ
–  ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรและทรัพย์สินอื่น ๆ
–  ค่าใช้จ่ายสวัสดิการ เช่น โบนัส ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ
–  ค่าขนส่ง เป็นต้น
   🍡 ความสูญเสีย (Lost) หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้วไม่เกิดผลผลิต บางองค์การอาจใช้คำว่า ความสูญเปล่า (Waste)
ในความเป็นจริง  ความสูญเสียหรือความสูญเปล่าก็คือต้นทุนแต่เป็นต้นทุนที่ไม่ก่อผลประโยชน์
ปัญหาของการเพิ่มผลผลิต  ซึ้งทำให้ผลผลิตตกต่ำลงและอาจมีสาเหตุหลายประการซึ้งทำให้เกิดความสูญเสีย   ได้แก่
       🍗 ความสูญเสียในส่วนวัสดุ    เช่น
–  มากเกินไป สั่งซื้อมามาก ทำให้หมดเงินลงทุน และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บ
–  สูญหาย การวางผิดที่ หยิบใช้โดยไม่ต้องบอก ฯลฯ
–  ไว้ผิดประเภท จัดซื้อไม่ถูกขนาดหรือ Spec เสียค่าใช้จ่ายมาก ฯลฯ
       🍗 ความสูญเสียในส่วนเครื่องจักร
–  เก่าชำรุด
–  สกปรก ขาดการดูแลรักษา
–  ประสิทธิภาพการผลิตต่ำ ฯลฯ
       🍗 ความสูญเสียในส่วนแรงงาน
–  ขาดระเบียบวินัย
–  ขาดการฝึกอบรม
–  มีทัศนคติที่ไม่ดีในการทำงาน ฯลฯ
      🍗 ความสูญเสียในส่วนกระบวนการผลิตหรือวิชาการทำงาน
–  ขาดเทคโนโลยี
–  ไม่มีการพัฒนาควบคุมคุณภาพ ฯลฯ
ความสูญเสีย 7 ชนิด บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ระบุถึงสาเหตุของความสูญเสีย 7ชนิด ไว้ ดังนี้
    🌵  ผลิตมากเกินไป
    🌵  ของชำรุดเสียหายหรือของเสีย
    🌵  ความล่าช้าหรือการรอคอย
    🌵  วัสดุคงคลัง สินค้าคงคลังมากเกินไป
    🌵  การขนส่งหรือการขนย้าย
    🌵  กระบวนการหรือการแปรรูป
    🌵  การเคลื่อนไหว
ความสูญเสียที่เกิดจากการผลิตมากเกินไป (Overproduction)
การผลิตมากเกินไป ทำให้มีการใช้วัตถุดิบและแรงงานเกินความจำเป็น เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตขั้นสุดท้าย และยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้า การบรรจุภัณฑ์และการขนส่ง
ความสูญเสียที่เกิดจากการผลิตของเสีย (Defect)
การผลิตของเสีย หมายถึง การสูญเสียคุณค่างาน เสียเวลา เสียวัตถุดิบ และยังเป็นการเพิ่มงานในการผลิตหรือการแก้ไขงานใหม่
ความสูญเสียที่เกิดจากการล่าช้าหรือการรอคอย (Delay or Waiting)
การรอคอย หรือความล่าช้า เกิดจากสาเหตุต่างๆ กัน เช่น ความล่าช้าของการส่งวัตถุดิบหรือชิ้นส่วน การใช้เวลานานในการติดตั้งเครื่องจักร กระบวนการขาดความสมดุลอันเนื่องจากการวางแผนการผลิตไม่ถูกต้อง
ความสูญเสียที่เกิดจากการมีวัสดุคงคลังที่ไม่จำเป็น (Inventory / workin-process)
การสะสมวัตถุดิบไว้จำนวนมากแล้วใช้ไม่ทัน ทำให้ต้องใช้พื้นที่ในการเก็บรักษาต้องเสียค่าใช้จ่าย ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ย เสียเวลาทำงาน และเสียทรัพยากรอื่นๆ
ความสูญเสียที่เกิดจากการขนส่งหรือขนย้าย (Transport)
การใช้แรงงานขนส่งของเป็นระยะไกลๆ ในการทำงาน การเดินทางของพนักงานส่งเอกสาร การขนส่งเป็นการสูญเสียที่ไม่ได้เพิ่มคุณค่าของสินค้า
ความสูญเสียเกิดจากการกระบวนการผลิต (Process)
ความสูญเสียอาจเกิดจากการไม่ได้ดูแลรักษาเครื่องจักร การทำงานด้วยมือที่มีการข้ามขั้นตอนการทำงาน เครื่องจักรมีประสิทธิภาพต่ำ
ความสูญเสียที่เกิดจากการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น (Motion)
การเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น การปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะสมถูกต้อง การทำงานกับเครื่องมือหรืดอุปกรณ์ที่มีขนาดน้ำหนักหรือสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมกับร่างกาย
🍭 เทคนิคการเพิ่มผลผลิตในองค์การ
หลักการสำคัญของการบริหารเพื่อเพิ่มผลผลิตในองค์การ สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึง คือ
   🍃 เวลาในการผลิต
   🍃 การวางแผนควบคุมการผลิต
   🍃 การใช้ระบบเพียงระบบเดียวในการผลิต
   🍃 ไม่มีวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมการผลิต
-เวลาในการผลิตผู้บริหารจะต้อง
–  ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้ค่า
–  ค้นหาสาเหตุของความล่าช้า
–  จัดลำดับความสำคัญของงานโดยกำหนดลำดับสูงสุด
–  ลดรอบเวลาในทุกหน้าที่งานทั้งด้านงบประมาณ
-การวางแผนควบคุมการผลิต
การใช้ระบบเพียงระบบเดียวในการผลิต
องค์ประกอบและปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตจะเหมือนกัน แม้ว่าขนาดขององค์การจะแตกต่างกัน
-ไม่มีวิธีที่สุดในการควบคุมการผลิต
การผสมผสานระหว่าง การวางแผน การดำเนินการควบคุมจะช่วยให้
การบริหารมีประสิทธิภาพ
เทคนิคการเพิ่มผลผลิตและช่วยลดความสูญเสีย ได้แก่
  🌸 หลักการ ECRS
E  =  Eliminate  :  การขจัดขั้นตอนหรือวิธีการทำงานที่ไม่เป็นประโยชน์
C  =  Combine  :  การรวบรวมขั้นตอนต่างๆ
R  =  Rearrange  :  การจัดลำดับขั้นตอนการทำงานใหม่ตามลำดับก่อนหลัง
S  =  Simplify  :  การปรับปรุงให้ขั้นตอนหรือวิธีการทำงานต่างๆ
  🌸 การผลิตแบบ “จิ๋วแต่แจ๋ว”
หรือการผลิตแบบกะทัดรัด (Lean Manufacturing) หมายถึง ระบบการผลิตที่กะทัดรัดแต่มีประสิทธิภาพ โดยวิธี
–  ลดต้นทุนการผลิต
–  ลดเวลาในการผลิต
–  ลดสินค้าในสต๊อก
–  ขจัดงานที่ไม่สร้างมูลเพิ่มทิ้ง
แนวคิดพื้นฐาน คือ
  🍁 การฝึกอบรมพัฒนาเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว
  🍁 การดำเนินการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  🍁 การลดจำนวนสินค้าในสต๊อก
  🍁 การขจัดงานที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทิ้งไป
  🌸ระบบการผลิตแบบทันเวลาพอดี (JIT : Just in Time) หรือระบบการผลิตของโตโยต้าที่เรียกว่า ระบบคัมบัง (Kanban System)
หลักการของระบบ JIT ประกอบด้วย
  🍌 ระบบคัมบังการเบิกชิ้นส่วนในการผลิต
  🍌 การเปรียบเทียบทางการผลิต
  🍌 การลดเวลาปรับตั้งเครื่องจักรให้สิ้นลง
  🍌 การทำงานอย่างมีมาตรฐาน
  🍌 การวางผังเครื่องจักร
  🍌 ระบบอัตโนมัติ
  🍌 ระบบการควบคุมด้วยการมองเห็น
  🍌 กิจกรรมในการปรับปรุงงาน
 🌸 เทคนิคการบำรุงรักษาทวีผล (Total Productive Maintenance)
  🍊 กิจกรรมการเพิ่มประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร
  🍊 ความสูญเสียจากการหยุดเนื่องจากขัดข้อง (Breakdown)
  🍊 ความสูญเสียจากการปรับตั้งและปรับแต่งเครื่องจักร 
(Set-up and Adjust-ment)
  🍊 ความสูญเสียจากการหยุดเล็กน้อยและเดินเครื่องเปล่า 
(Idling and Minor Stoppages)
  🍊 ความสูญเสียเนื่องจากเครื่องจักรเสียความเร็วในการผลิต (Reduced Speed)
 🍊 ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตของเสีย (Defects)
 🍊 ความสูญเสียเนื่องจากการสูญเสียวัตถุดิบเมื่อเริ่มเดินเครื่อง
 🍊 การสร้างระบบการบำรุงรักษาเครื่องจักร
 🍊 การจัดทำแผนการบำรุงรักษาเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของเครื่องจักร
 🍊 การสร้างระบบป้องกันการรักษาโดยพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงานเพิ่มทักษะและปลูกฝังจิตสำนึกในการบำรุงรักษาเครื่องจักรให้มากขึ้น
  🌸 เทคนิควิศวกรรมอุตสาหกรรม (Industrial Engineer Technique)หรือ Ietechniqueประกอบด้วยกลุ่มของเทคนิคต่างๆ 
ที่สามารถยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น ขจัดของเสีย และ
การทำงานที่ไม่คงที่
  🌸 การเพิ่มผลผลิต โดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำสุด สามารถทำได้ด้วยแนวทางการปรับปรุงใน 8ประการ ได้แก่
   🌽 การจัดเก็บและการขนย้ายวัสดุสิ่งของอย่างมีประสิทธิภาพ
   🌽 การออกแบบและจัดบริเวณที่ทำงานใหม่
   🌽 การใช้เครื่องจักรอย่างประสิทธิภาพ และปลอดภัย
   🌽 การควบคุมสารเคมีอันตราย และสัตถุอันตราย
   🌽 การปรับปรุงแสงสว่าง
   🌽 การเพิ่มสวัสดิการ
   🌽 การปรับปรุงอาคารสถานที่
   🌽 การจัดรูปแบบของงานใหม่ เป็นต้น
ขอขอบคุณ https://cpico.wordpress.com/2009/11/29/
สืบค้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561


วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561

การบริหารงานคุณภาพในองค์กร


📂 การบริหารงานคุณภาพในองค์กร 📂



ความหมายและขอบข่ายของการบริหารงานคุณภาพในองค์กร
   ความหมายของการบริหารงานคุณภาพในองค์กร คือ กระบวนการบริหารงานที่ประกอบด้วย นโยบายคุณภาพ วัตถุประสงค์ คุณภาพ การวาแผนงานคุณภาพ ระบบการบริหารจัดการ
เชิงคุณภาพ  ระบบการตรวจสอบหรือการประเมินผล และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง 
เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ของพนักงานและของสังคม

หลักการบริหารงานคุณภาพในองค์กร
หลักการพื้นฐานของการบริหารงานคุณภาพในองค์กร ประกอบด้วย



🍭มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า คือการมุ่งเน้นที่ลูกค้า โดย
                    🍎สำรวจตรวจสอบและทดสอบความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่ความคาดหวัง
ที่ลูกค้าต้องการจากองค์กร ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ จนถึงความพึงพอใจเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าหรือบริการแล้ว
                     🍎ตรวจาสอบความต้องการของลูกค้า โดยให้ความคาดหวังมีความสมดุล
กับความพอใจ 
                     🍎ประเมนผลความพึงพอใจของลูกค้าเท่ากับความคาดหวังหรือไม่ต้องปรับปรุงในเรื่องอะไร
 
                     🍎สร้างระบบความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับองค์กร เพื่อให้องค์กรได้รับข้อมูล ความต้องการที่ถูกต้อง โดยการจัดระบบการบริหารลูกค้าสัมพันธ์
                     🍎สร้างระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ให้ทั่วทั้งองค์กรร่วมตอบสนอง
ความต้องการของลูกค้า (พนักงานทุกคนมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการของลูกค้า)
                    


🍭บริหารงานอย่างเป็นผู้นำ (Leadership)
ผู้นำขององค์กรใช้หลักการบริหารอย่างเป็นผู้นำ เพื่อนำทางให้เพื่อนร่วมงานในองค์กรไปสู่

เป้าหมายคุณภาพ ทั้งนี้ต้องคงไว้ซึ่งบรรยากาศการทำงานที่มีประสิทธิภาพด้วย แนวทาง
การบริหารงานอย่างเป็นผู้นำ ได้แก่
🚩กำหนดวิสัยทัศน์ ให้ชัดเจนตรงตามความต้องการของลูกค้า
🚩ตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย แล้วสร้างขวัญกำลังให้พนักงานมุ่งมั่นสู้เป้าหมาย
🚩สร้างค่านิยมส่งเสริมคุณภาพในองค์กรด้วยการฝึกอบรม
🚩สร้างคุณค่าการทำงานด้วยการส่งเสริมระบบความร่วมมือให้เกิดขึ้นภายในองค์กร
🚩สร้างจริยธรรมที่ดีในการทำงานด้วยการเป็นแบบอย่างให้พนักงานเห็น
🚩สร้างความเชื่อมั่นขจัดความกลัวและความไม่มั่นคงขององค์กร ด้วยการสร้างความสามัคคี และมีส่วนร่วมในการบริหารงาน
🚩สร้างความสำเร็จด้วยการจัดทรัพยากรอย่างพอเพียง
🚩สร้างความเข้าใจระหว่างพนักงานกับผู้บริหารด้วยระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ


🍭การมีส่วนร่วมของพนักงาน (Involvement of people)
สมาชิกทุกคนขององค์กรมีความสำคัญ ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้โดย
เปิดโอกาสให้พนักงานร่วมคิด ร่วมสร้างสรรค์ หรือร่วมปรับปรุงแก้ไขปัญหาการทำงาน 
มีแนวทางปฏิบัติดังนี้
🐣องค์กรยอมรับความสามารถของพนักงานและบทบาทการมีส่วนร่วมของพนักงาน
🐣พนักงานมีความตระหนักในความเป็นเจ้าขององค์กร
🐣 สร้างกิจกรรมให้พนักงานมีส่วนร่วม
🐣สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในบทบาทการมีส่วนร่วมของพนักงาน
🐣เปิดโอกาสให้พนักงานำได้เพิ่มพูนประสบการณ์ ความรู้ และทักษะ ทั้งจากภายในองค์กร
 และภายนอกองค์กร 
🐣ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของพนักงาน
🐣ประเมินผลงาน โดยรวมเอาผลงานความคิดสร้างสรรค์ไว้ด้วยกัน

🍭การบริหารโดยกระบวนการ (Process Approach to management)
กระบวนการประกอบด้วยปัจจัยนำเข้า กระบวานการดำเนินการ และผลลัพธ์จากจากการ

ดำเนินงาน กระบวนการบริหารงานคุณภาพในองค์กร ไ ด้แก่
        🍫ปัจจัยนำเข้า คือ ความต้องการของลูกค้า มีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน วัดและประเมินตามข้อบ่งชี้ได้ นอกจากนี้ยังต้อง ให้ความสำคัญต่อปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ด้วย
        🍫กระบวนการดำเนินงาน มีการออกแบบกระบวนการดำเนินงานทุกขั้นตอน ให้การ
ดำเนินงานเป็นไปโดยราบรื่น ต่อเนื่อง มีระบบการควบาคุมงาน การฝึกอบรม อุปกรณ์ และวัตถุดิบอย่างเพียงพอ มีการวางแผนการดำเนินงาน โดยกำหนดความรับผิดชอบและหน้าที่อย่างชัดเจน
        🍫ผลลัพธ์จากการดำเนินงาน มีการประเมินผลลัพธ์ที่ได้ ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นและผลกระทบจากภายในและภายนอกขององค์กรที่ส่งผลต่อลูกค้า

🍭การบริหารงานอย่างเป็นระบบ (System Approach to management)
คือ การมององค์กรจากโครงสร้าง ที่ประกอบด้วยฝ่ายต่างๆ ซึ่งมีหน้าที่เฉพาะ แต่การบริหารงานอย่างเป็นระบบ คือความสามารถในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกันให้ระบบความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายหรือหน่วยงานมีประสิทธิภาพมากพอจะสร้างผลงานคุณภาพขององค์กร
 การบริหาร ให้ระบบความสัมพันธ์เกิดประสิทธิภาพทำได้โดย
    🍷วางโครงสร้างขององค์กรให้เกิดระบบความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน ไม่คลุมเครือ แบ่งแยกหน้าที่แต่มีความเกี่ยวข้อง
    🍷 สร้างระบบความสัมพันธ์ โดยตั้งจุดประสงค์คุณภาพร่วมกัน
    🍷 กำหนดวิธีการดำเนินงาน ให้เชื่อมโยงกันอย่างราบรื่น
    🍷การประเมินผลของฝ่ายและหน่วยงาน เป็นการประเมินโดยมองการเชื่อมโยงระหว่างฝ่าย
หรือหน่วยงาน
    🍷 การปรับปรุงงานของฝ่ายและหน่วยงานต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อคุณภาพโดยรวม
ขององค์กร

🍭การปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง (Continual Improvement)

การปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง คือ การสร้างมาตรฐาน่ให้เกิดขึ้น โดยการปฏิบัติดังนี้
     🍰กำหนดนโยบายการปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง
     🍰สร้างระบบการบริหารให้มีกระบวนการปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง
     🍰 จัดการฝึกอบรมให้พนักงานทุกระดับ ใช้ระเบียบวิธี PDCA ในการปฏิบัติงานและ

ดำเนินการปรับปรุงงานทันทีที่เห็นปัญหา หรือจุดบกพร่อง
     🍰จัดกิจกรรมและปัจจัยสนับสนุนการปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง
     🍰กระประเมินผลอย่างเป็นระบบ มีแผนการประเมิน มีเกณฑ์การประเมิน และมีข้อบ่งชี้

ที่ชัดเจน ย่อมทำให้พนักงานประจักร์ในความจำเป็นต้องปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง

🍭 ใช้ข้อเท็จจริงเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจ
การตัดสินใจใดๆ ถ้าใช้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีระบบการจัดเก็บที่เชื่อถือได้ เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และถ้าผ่านกระบวนการวิเคราห์มาแล้วอย่างเป็นระบบ ย่อมทำให้ การตัดสินใจ มีประสิทธิภาพ

 การใช้ข้อเท็จจริงเป็นพื้นฐานการตัดสินใจ ทำได้โดย
     🐛จัดให้มีการรวบรวม และเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ
     🐛 ข้อมูลมีความถูกต้อง เชื่อถือได้และใหม่เสมอ
     🐛 มีกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้หลักการทางสถิติ
     🐛เลือกใช้ข้อมูลได้อย่างเหมาะสมและตรงประเด็น
     🐛 การตัดสินใจนอกจากจะให้ผลการวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว ยังต้องใช้ประสบการณ์
และการคาดการณ์ล่วงหน้าที่แม่นยำด้วย

🍭สัมพันธภาพกับผู้ส่งมอบอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน
ผู้ส่งมอบหรือตัวแทนจำหน่ายมีความสัมพันธ์กับองค์กร โดยมีผลประโยชน์ร่วม
ร่วมกันดังนั้น สัมพันธภาพระหว่างองค์กรกับผู้ส่งมอบจึงต้องส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันสร้างคุณภาพเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน แนวทางการสร้างสัมพันธ์ภาพกับผู้ส่งมอบพื้นฐาน

ของผลประโยชน์ร่วมกันได้แก่
      🍖คัดเลือกผู้ส่งมอบที่มีประสิทธิภาพ
 
      🍖สร้างระบบความสัมพันธ์ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
      🍖 สร้างระบบการสื่อสาร หรือเครือข่ายการประสารงานที่มีประสิทธิภาพ
 
      🍖 ติดต่อสัมพันธ์กันด้วยความสื่อสัตย์โปร่งใส
      🍖 ให้ความจริงใจกับการพัฒนาระบบความสัมพันธ์ โดยเน้นการสร้างคุณภาพ
ให้กับทั้ง 2 ฝ่าย

ระบบการบริหารงานคุณภาพ (Quality Management System)


ข้อกำหนดระบบบริหางานคุณภาพอยู่ในมาตรฐาน ISO 9001:2000 โดยองค์กรต้องจัดระบบการบริหารงานที่ส่งผลให้บรรลุเป้าหมาย และวัตถุประสงค์คุณภาพขององค์กร ระบบบริหารงานหมายถึง โครงสร้างและหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ภายในองค์กร ระบบบริหารงานจะเกิดประสิทธิภาพและสร้างคุณภาพได้ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่อไปนี้


🍬การกำหนดนโยบายและวัตถุประสงค์คุณภาพ เพราะนโยบายและวัตถุประสงค์ขององค์กร คือแนวทางหลักที่หน่วยงานทุกหน่วยงานต้องยืดมั่นและปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์คุณภาพการกำหนดนโยบายและวัตถุประสงค์คุณภาพ มีกระบวนการดังนี้
        🍪การศึกษาและวิจัยตลาด เป็นการศึกษา 2 มิติ ได้แก่ มิติความต้องการของลูกค้าและมิติของคู่แข่งในตลาด
        🍪 การศึกษาและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ เป็นการทบทวน ทดสอบและประเมินผลผลิตภัณฑ์/งานบริการที่ดำเนินการอยู่ หรือที่คิดค้นขึ้นใหม่ว่า ตรงกับความต้องการของลูกค้า และสามารถแข่งขันในตลาดได้


🍬การกำหนดความคาดหวัง/มาตรฐาน/เป้าหมายของผลิตภัณฑ์หรืองานบริการจาก

การศึกษาความต้องการของลูกค้าและตลาด เพื่อให้ฝ่ายผลิต และฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
มีความชัดเจนในการดำเนินงาน

🍬การกำหนดกระบวนการผลิต/การบริการ เมื่อมีความชัดเจนด้านมาตรฐานนและเป้าหมายของผลิตภัณฑ์และงานบริการเราก็สามารถกำหนด
        🍩 กระบวนการผลิต/การบริการ 
        🍩สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการผลิต/การบริการ ด้วยมาตรฐานการตรวจสอบและเครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ


🍬 การวางแผนงานคุณภาพเพื่อกำหนดการใช้ทรัพยากร ในการผลิตหรือการให้บริการ
อย่างเหมาะสม พอเพียง และเกิดประสิทธิภาพการทำงาน แผนงานหลัก แผนงานประจำปี หรือแผนพัฒนาองค์กร เป็นต้น และมีการวางแผนกลยุทธ์ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามวัตถุประสงค์คุณภาพที่ตั้งไว้

🍬การปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานความต้องการของลูกค้าโดย
การตรวจสอบผลการปรับปรุงงานต่อไป
ความคาดหวังและความต้องการของลูกค้า รวมถึงสภาพการแข่งขันในตลาดไม่คงที่แน่นอน 
มีการเปลี่ยแปลงตามสภาวะของเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้น การศึกษาและวิจัยตลาดจึงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่องด้วย
🍬 สร้างระบบหรือหน่วยงานเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานขององค์กร นอกเหนือจาก
หน่วยงานที่มีอยู่ เช่น ฝ่ายการจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายผลิต ฝ่ายการเงิน ฯลฯ จะต้องสร้างระบบหรือหน่วยงานเพิ่มประสิทธิภาพดังต่อไปนี้
        🍨ระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพทำให้การเชื่อมโยงหน่วยงานต่างๆมีความสัมพันธ์กัน เข้าใจตรงกัน และสร้างคุณภาพร่วมกันระบบการสื่อสารควรเป็นระบบสื่อสาร แบบ 2 ทาง คือ
 ทำได้ทั้งส่งข้อมูลและรับข้อมูล
        🍨ระบบการประเมินคุณภาพและระบบการตรวจสอบคุณภาพที่มีมาตรฐาน มีความชัดเจน มีข้อบ่งชี้ที่ทุกหน่วยงานรับทราบร่วมและต้องมีแผนการตรวจสอบที่แน่นอนด้วย
 
        🍨ระบบการฝึกอบรม / พัฒนาบุคลากร ที่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องสัมพันธ์กับระบบการปรับปรุงงาน
        🍨ระบบลูกค้าสัมพันธ์ ที่สามารถสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงและ
แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ผลิตและผู้จำหน่ายหรือลูกค้า ระบบการบริหารงานคุณภาพยังต้องใช้หลักการการบริหารงานคุณภาพในองค์กรทั้ง 8 ข้อ ที่กล่าวถึงในข้อ 2. ด้วย

                    ขอขอบคุณ    ⇝   https://www.gotoknow.org/posts/381912 
                    สืบค้นเมื่อ     ⇝  24 มิ.ย. 61

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561

คุณภาพ



💻 คุณภาพ 💻



  ต้องยอมรับโดยทั่วกันว่า การแข่งขันเพื่อนำพาองค์กรให้ก้าวสู่
ความเป็นเลิศหรือคุณภาพเป็นแนวคิดที่พูดกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะองค์กรที่มีวัตถุประสงค์ทางด้านธุรกิจ คุณภาพสินค้าหรือบริการ คือ
หัวใจของการดำเนินงาน แม้เป้าหมายสูงสุดของการดำเนินกิจกรรมคือ
 ผลตอบแทนที่เรียกว่า กำไร  คุณภาพสินค้าหรือบริการจึงมิใช่ผลลัทธ์
ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ  องค์กรคุณภาพ(Quality Organization) สินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพจึงมีเหตุและผลที่สอดคล้องกัน ภายใต้หลักการว่าองค์กรคุณภาพ เริ่มต้นที่การมีปัจจัยต่างๆที่มีคุณภาพ กระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ  ต้องมีบุคลากรที่มีคุณภาพ และท้ายที่สุดก็คือการบริหารจัดการ
ที่มีคุณภาพ ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาที่มีคุณภาพด้วย

  ในรางวัลมัลคัม บัลดริจ อะวอร์ด( Malcalm Baldrige National  Quality Award) ของสหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จขององค์กรคุณภาพ(key success factor)” ไว้ดังนี้
→ ความสามรถสร้างคุณภาพสินค้าหรือบริการได้ตามความต้องการ ของลูกค้า(การสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าเป็นที่ตั้ง  หรือ Customer Focus
→ ผู้บริหารขององค์กรได้สร้าง ”ค่านิยมแห่งคุณภาพ(Quality  Values)” 
อย่างชัดแจ้ง และได้ผนวกเอาค่านิยมแห่งคุณภาพไว้ในแผนกลยุทธ์ ตลอดถึงวิธีปฏิบัติขององค์กร
→ ความเป็นเลิศด้านคุณภาพของสินค้าหรือบริการเกิดจากองค์กรมีระบบ
การออกแบบที่ดีและกระบวนการผลิตสินค้าหรือบริการ
ที่มีประสิทธิภาพ( Process  Improvement)
→ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเป็นส่วนที่มีความสำคัญยิ่งในกระบวนการบริหารจัดการขององค์กร(วัตถุประสงค์สำคัญของ TQM)
→ องค์กรต้องมีการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนทั้งในด้านกลยุทธ์
และแผนปฏิบัติการเพื่อมุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านคุณภาพ
→ องค์กรมีความพยายามตัดลดขั้นตอนและระยะเวลาในกระบวน
การผลิตสินค้าหรือบริการให้ลดลงอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
→ การปฏิบัติงานและการตัดสินใจใดๆในองค์กร ขึ้นอยู่กับข้อมูลและสารสนเทศที่เป็นจริง
→ บุคลากรทุกคนได้รับการฝึกฝนพัฒนาอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง
→ บุคลากรทุกคนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมที่เกี่ยวกับการสร้างคุณภาพ( Total Involvement)
→ “มาตรการป้องกันล่วงหน้าเป็นหัวใจสำคัญของระบบสร้างคุณภาพ 
(six sigma)
→ องค์กรต้องมีระบบติดต่อสื่อสารระหว่างภายในและภายนอกองค์
ที่มีประสิทธิภาพ
  จะเห็นว่าทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คงพอทำให้ท่านเห็นได้ว่าการสร้างองค์กรคุณภาพให้เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ  ยิ่งหากต้องการ ”สร้างคุณภาพคนยิ่งเป็นเรื่องที่สาหัสเหลือเกิน
       มีข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัยองค์กรที่เป็นเลิศระดับโลก         โดย Thomas  J. Peters  และ Robert H.Waterman ของสหรัฐอเมริกา 
กล่าวถึงการบริการสู่ความเป็นเลิศ 8 ประการ ดังนี้
       💙  การมุ่งเน้นการปฏิบัติจนเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยเฉพาะลักษณะ 
  3 ประการต่อไปนี้ การทำองค์กรให้มีความคล่องตัว การทดลองปฏิบัติ
และการทำระบบให้ง่าย
     💙  การมีความใกล้ชิดกับลูกค้า( close  to  the customer) เพื่อ
รับฟังความคิดเห็นของลูกค้า
     💙  การให้อิสระในการทำงานและสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจการ  อันเป็นการกระจายอำนาจการดำเนินงาน  ในขอบเขตที่กว้างขวางมากขึ้น  เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรได้มีส่วนร่วมคิด ปรึกษาหารือกันอยู่ตลอดเวลา  รวมทั้งมีความอดทนต่อความล้มเหลวที่เกิดขึ้นจากการทดลองคิดค้นเทคนิควิธีการทำงานใหม่
      💙  การเพิ่มผลผลิตหรือผลสัมฤทธิ์โดยบุคลากรเอง เช่น
การให้เกียรติ  การมอบความไว้วางใจ  ตลอดถึงบรรดามาตรการ
เชิงบวก  เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรมีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติงาน เป็นการเพิ่มผลผลิตหรือผลสัมฤทธิ์โดยตัวของพวกเขาเอง
      💙 การติดตามงานอย่างใกล้ชิดและการใช้ค่านิยมในการ
ผลักดัน( hand on  and value Driven)  โดยผู้บริหารจะต้องลงมาปฏิบัติงาน
หรือสัมผัสงานด้วยตนเอง มิใช่นั่งทำงานอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม
      💙 การทำภารกิจที่ตนเชี่ยวชาญ ( stick  to  the  knitting)
      💙การมีรูปแบบการทำงานที่เรียบง่ายและใช้บุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ( simple  form and  learn  staff)
      💙การเข้มงวดและผ่อนปรนในเวลาเดียวกัน (Simultaneous loose/Tight  properties)เพื่อสร้างความศรัทธาและความเชื่อมั่นร่วมกัน
ในคุณค่าของลูกค้าคุณภาพการบริการ
     ความจริงลักษณะทั้ง 8 ประการ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเพราะว่าองค์ส่วนใหญ่ได้ละเลยสิ่งเหล่านี้ และมิได้ให้ความสำคัญ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆที่ตนทำอยู่แล้วแต่ความจริงอาจมิได้ทำทีก็มี ดังนั้น จะเห็นว่า การให้ได้มาซึ่งองค์กรแห่งคุณภาพ จึงเป็นเรื่องที่ต้องลงทุนลงแรงและใช้เวลาอย่างมากและยาวนานด้วย จึงเป็นหน้าที่ของผู้บริหารองค์กรในอันที่จะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นด้วย
การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร( corporate culture) ด้วยกลวิธี โดย วิฑูรย์ สิโชคดี(2544 : 163-170) ได้กล่าวสรุปสั้นๆไว้ ดังนี้
💜 การปลุกเร้า ”จิตสำนึกแห่งคุณภาพหรือ Quality concions ด้วยจิตใจมุ่งการบริการ (service  mind)
💜 การเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาหรือปรับปรุงกระบวนการในการทำงานที่มีคุณภาพให้เกิดแก่ลูกค้าและผู้รับบริการ
💜 การรับรู้ ”ต้นทุนแห่งคุณภาพ” อย่างกว้างขวาง ไม่มีใครอยากได้ผลผลิตที่ไม่มีคุณภาพและสิ่งนี้ก็คือตัวชี้วัดความสำเร็จของTQM และBSC
💜 การมองให้เห็นกระบวนการและภาพรวมของการผลิตตั้งแต่ต้น
จนจบ  บุคลากรทุกคนจึงต้องรู้บทบาทหน้าที่ของตนเองมีอย่างไร
ในกระบวนการผลิต ไม่ใช่อยู่เช้าชามเย็นชามไปวันหนึ่งๆ
💜 มีจิตสำนึกต่อต้นทุนผลผลิต ซึ่งหมายถึงความคุ้มค่าของผลผลิต มีผู้กล่าวไว้อย่างน่าคิดว่า แม่ค้าขนมครกยิ่งทำมานานเท่าใด 
ยิ่งมีความเป็นมืออาชีพ แต่ครูยิ่งสอนนานมากเท่าใดยิ่งแย่ลงไปทุกที นี่แสดงว่า ไม่คุ้มค่าต้นทุนผลผลิตใช่หรือไม่
💜 การสร้างผลลัพธ์ให้เป็นรูปธรรม อย่างน้อยสามารถชื่นชมได้ 
เพื่อเป็นแรงจูงใจในความมุ่งมั่นพยายาม
💜 ผู้บริหารต้องมีความมุ่งมั่นจริงจังต่อค่านิยมแห่งคุณภาพ
ขององค์กร
💜 มุ่งเน้นการใช้ข้อมูลสารสนเทศในการพัฒนางาน TQM  และSix  sigma
💜 การฝึกให้บุคลากรทุกคนคิดให้เป็น ทำให้ได้หรือการคิดใหม่
ทำใหม่” เพื่อให้ทุถกคนออกจากการทำงานแบบเดิมๆที่ซ้ำซาก
💜 การมีเป้าหมายที่ชัดเจน การทำงานที่มีเป้าหมายชัดเจน ทำให้งานเดินสู่ทิศทางอย่างมั่นใจ และเป็นทิศทางเดียวกัน
💜 การจัดสรรให้มีทรัพยากรอย่างเหมาะสมและเพียงพอในกระบวนการผลิต
💜 การเปลี่ยนแปลงใดๆ  ย่อมมีแรงต่อต้าน  ผู้บริหารจะต้องมีความพยายามในการอธิบายให้บุคลากรเข้าใจ เพื่อให้เกิดความสามัคคีกันให้มากที่สุด
💜 การมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบตามสายงานอย่างเหมาะสม
💜 การเพิ่มบาบาทภาวะผู้นำ
💜 การรับฟังข้อเสนอแนะจากบุคลากร
💜 การให้อำนาจแก่ผู้ปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม
💜 ไม่ประโคมข่าวเกินจริง
💜 การเป็นนักประสานงานที่ดี
💜 ลดความสูญเปล่า
💜 ให้ความสำคัญต่อการวัดผล ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ
       ทั้งคุณลักษณะสู่ความเป็นเลิศ 8 ประการและลักษณะ
ของวัฒนธรรมองค์กร มิได้เป็นหนทางความสำเร็จเสมอไป  
แต่ต้องยืนยันด้วยการปฏิบัติอย่างจริงจัง จึงจะเป็นหลักประกันความสำเร็จ ฉะนั้น “คุณภาพ” คือความอยู่รอดขององค์กร องค์กรที่มีคุณภาพจึงเกิดขึ้นจากการบริหาร

            ขอขอบคุณ     :  https://www.gotoknow.org/posts/280067 
            สืบค้นเมื่อวันที่  : 23 มิถุนายน 2561


การจัดการงานอาชีพ

การจัดการงานอาชีพ ( Career Management )                การจัดการ   คือการทำให้กลุ่มบุคคลในองค์กรเข้ามาทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุว...